ประวัติความเป็นมา

Release Date : 12-06-2018 12:14:12
ประวัติความเป็นมา

เมื่อปี พ.ศ.๒๔๙๓ รัฐบาลไทยได้พิจารณาส่งกำลังทหาร ๑ กรมผสม ประกอบด้วยกำลังพลจำนวน ๔,๐๐๐ นาย ไปร่วมรบกับกองกำลังสหประชาชาติในสงครามเกาหลี ตามคำขอของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ  โดยออกเดินทางจากท่าเรือกรุงเทพฯ คลองเตย เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม ๒๔๙๓ และเดินทางถึงเมืองปูซาน ประเทศเกาหลี เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๔๙๓

        ในช่วงแรกของการปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังสหประชาชาติ กรมผสมที่ ๒๑ อยู่ภายใต้การปกครองบังคับบัญชาของกองบัญชาการทหารของไทย แต่ขึ้นการบังคับบัญชาทางยุทธการกับกองทัพที่ ๘ ของสหรัฐฯ ต่อมาเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๔๙๔ กระทรวงกลาโหมได้พิจารณาให้ปรับยุบกองบัญชาการทหารไทย พร้อมทั้งปรับลดกำลังลงเหลือเพียง ๑ กองพันทหารราบ โดยใช้ชื่อว่า “กรมผสมที่ ๒๑ กองพันทหารราบที่ ๑ (อิสระ)” ในส่วนของกำลังหมู่เรือคงให้มีเท่าเดิม สำหรับกองทัพอากาศให้จัดเครื่องบินลำเลียง ๑ หมู่ จำนวน ๓ เครื่อง พร้อมเจ้าหน้าที่ ๑๗ คน และเจ้าหน้าที่เสนารักษ์ประจำเครื่องบินขนส่งสหประชาชาติ ๓ ชุด และแต่งตั้ง นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ ให้มีหน้าที่ในการติดต่อประสานการปฏิบัติของกำลังทหารไทยกับ บก.สหประชาชาติ

        กำลังทหารไทยได้ปฏิบัติหน้าที่ในยุทธภูมิภายใต้ธงสหประชาชาติ จนกระทั่งมีการเจรจาสงบศึกเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๔๙๗ หลังจากที่ได้มีการลงนามในความตกลงสงบศึกแล้ว สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีกลับสู่สภาวะปกติ ชาติพันธมิตรที่ส่งทหารไปร่วมรบต่างเริ่มถอนกำลังทหารกลับ รัฐบาลไทยจึงถอนกำลังทหารไทยกลับเมื่อวันที่ ๖ มกราคม ๒๔๙๘ แต่ให้คงกำลังไว้ ๑ กองร้อย ไว้ที่ประเทศสาธารณรัฐเกาหลี

        ถึงแม้ว่าจะมีการถอนกำลังทหารส่วนใหญ่กลับไปแล้วแต่ยังคงให้มี นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะผู้ประสานงานกับ บก.สหประชาชาติต่อไป รวมถึงได้พิจารณาให้จัดตั้ง สน.นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ ขึ้นในปี พ.ศ.๒๔๙๙ มีที่ตั้ง ณ บ้านเลขที่ ๖–๑๕–๒๑ ตำบลชิโมเมกุโระ เขตเมกุโระ กรุงโตเกียว

        เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๐๔ กระทรวงกลาโหมพิจารณาเห็นว่าจำเป็นต้องมีผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประจำอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นเพื่อดูแลด้านการทหาร จึงได้จัดตั้ง สน.ผชท.ทบ.ไทย/โตเกียวขึ้น โดยใช้สถานที่ตั้งของ สน.นตต.ฯ เป็นที่ตั้งของ สน.ผชท.ทบ.ไทย/โตเกียว และมอบหมายให้ ผชท.ทบ.ไทย/โตเกียว รักษาราชการ ผชท.ทอ.ไทย/โตเกียว และทำหน้าที่ นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ

        ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๐๗ รัฐบาลไทยจึงได้พิจารณาจัดตั้ง สน.นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติขึ้นใหม่ที่กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี เนื่องจาก บก.สหประชาชาติได้ย้ายที่ตั้งจากประเทศญี่ปุ่นไปยังสาธารณรัฐเกาหลี โดยมอบหมายให้ ผชท.ทบ.ไทย/โซล ทำหน้าที่ หน.นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ และเปลี่ยนชื่อ สน.นตต.ฯ เดิมที่กรุงโตเกียว เป็น สน.นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ (ส่วนหลัง)

        ต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๑๔ รัฐบาลไทยได้พิจารณาถอนกำลังทหารที่เข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี
ที่เหลือกลับประเทศไทย คงให้เหลือเพียงหน่วยบินลำเลียงของ ทอ.ไทย ที่ยังคงประจำอยู่ที่ฐานทัพอากาศทาชิคาวะ ประเทศญี่ปุ่น พร้อมกันนั้นกระทรวงกลาโหมได้แก้ไขอัตรา สน.นตต. ประจำบก.สหประชาชาติ (ส่วนหลัง) เป็น สน.ผชท.ทหารไทย/โตเกียว และจัดตั้ง สน.ผชท.ทอ.ไทย/โตเกียวขึ้น พร้อมกับมอบหมายให้ ผชท.ทอ.ไทย/โตเกียว รักษาราชการ ผชท.ทหารไทย/โตเกียว และปฏิบัติหน้าที่ นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติอีกหน้าที่หนึ่ง เนื่องจากกำลังพลที่ประจำการอยู่ในประเทศญี่ปุ่นในขณะนั้นส่วนใหญ่เป็นข้าราชการ ทอ. จนกระทั่งต่อมาในปี พ.ศ.๒๕๒๒ จึงได้มีการปรับเปลี่ยนให้ ผชท.ทบ.ไทย/โตเกียว รักษาราชการ ผชท.ทหารไทย/โตเกียว และปฏิบัติหน้าที่ นตต.ประจำบก.สหประชาชาติ (ส่วนหลัง)

        ในปี พ.ศ.๒๕๒๓ คณะรัฐมนตรี ได้อนุมัติงบประมาณก่อสร้างอาคาร สน.ผชท.ทหารไทย/โตเกียว วงเงิน ๓๑,๙๑๙,๔๗๒ บาท(สามสิบเอ็ดล้านเก้าแสนหนึ่งหมื่นเก้าพันสี่ร้อยเจ็ดสิบสองบาท) ในพื้นที่เดิมโดยก่อสร้างเป็นอาคารสูง ๗ ชั้น ทำหลังคาประยุกต์เป็นรูปจั่ว ทรงลาด แบบบ้านไทย เพื่อให้สำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ๓ เหล่าทัพ ใช้ประโยชน์ร่วมกันโดยมี ผชท.ทหารไทย/โตเกียว เป็นผู้รับผิดชอบดูแล

          หลังจากวิกฤติเศรษฐกิจในปี พ.ศ.๒๕๔๐ รัฐบาลมีนโยบายให้ปรับอัตราของผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ดังนั้นในปี พ.ศ.๒๕๔๒ กระทรวงกลาโหมจึงได้พิจารณาปรับเปลี่ยนตำแหน่งของผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารใหม่ โดยในส่วนของ ผชท.ทหารไทย/โตเกียว ได้มอบหมายให้ ผชท.ทอ.ไทย/โตเกียว รักษาราชการ ผชท.ทหารไทย/โตเกียว และปฏิบัติหน้าที่ นตต.ประจำ บก.สหประชาชาติ (ส่วนหลัง) สำหรับ สน.ผชท.ทร.ไทย/โตเกียว ได้เปิดทำการตั้งแต่ ๙ ก.ย.๒๔๙๕ จนถึง ๓๐ ก.ย.๒๕๔๒ (วันปิดทำการ) รวมระยะเวลา ๔๗ ปี กับอีก ๒๑ วัน โดยมี ผชท.ทร.ฯ มาแล้วจำนวน ๑๖ ท่าน และเสมียนประจำ สน.ฯ จำนวน ๙ นาย และได้เปิดทำการอีกครั้งเมื่อ ๑ ต.ค.๕๐ ที่ผ่านมา ปัจจุบัน (มิ.ย.๒๕๖๑) มี ผชท.ทร.ฯ เป็นลำดับที่ ๒๐ และเสมียนประจำ สน.ฯ เป็นลำดับที่ ๑๓

รูปภาพที่เกียวข้อง
ประวัติความเป็นมา
ข่าวสารที่เกี่ยวข้อง